วิสัยทัศน์

เป็นผู้นำ Home Fashion ที่มุ่งเน้นความหรูหรา (Luxury) และความเท่ห์ เก๋ไก๋ (CHIC) ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique) และวิถีทางการดำเนินชีวิต (Life Style)

พันธกิจ

มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ แรงบันดาลใจ และการนำเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่งเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

ค่านิยมหลัก

C - Customer Care

การให้บริการที่เป็นเลิศ และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า

H - Human

ทรัพยากรบุคคลที่มีจริยธรรม และพัฒนาการ

I - Innovation & Inspiration :

การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า

C - Co-operation

การร่วมมือ และประสานงานภายในองค์กรเพื่อการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ

บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน และที่นอนและเครื่องนอน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ครบตามความต้องการได้ภายในแห่งเดียวแบบครบวงจร (One Stop Shopping) โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ในการนำเสนอสินค้าที่แตกต่างให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “Home Fashion Living” การอยู่อาศัยไม่ใช่เพียงเพื่อการพักอาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอยู่อย่างมีสไตล์ มีรสนิยม และมีดีไซน์ หรือ “Living is not just to live but to live Fashionably” เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวตน (Uniqueness) ที่แตกต่างและนำสมัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายในการขยายสาขาให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

  1. พฤษภาคม

    • จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ โดยนายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 ด้วยทุน จดทะเบียน 3,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 6/5-6 หมู่ที่ 4 ถนนพระราม 2 ซอย 83 แขวงแสมดำ เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150

  2. มกราคม

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแรกที่ย่านบางนา โดยเริ่มจากพื้นที่เช่าภายในอินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ สาขาบางนา มีพื้นที่ประมาณ 550.60 ตารางเมตร

    ธันวาคม

    • บริษัทฯ จดทะเบียนเพิ่มทุนจำนวน 87,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 90,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,700,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 10.00 บาท เพื่อเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม สำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 2 ที่ประดิษฐ์มนูธรรม โดยตั้งอยู่เลขที่ 90 ซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 มีพื้นที่ทั้งหมด 9,189 ตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าในบริเวณดังกล่าว และสร้างการรับรู้ของตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
  3. มกราคม

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าที่บางขุนเทียน โดยตั้งอยู่เลขที่ 20/6 หมู่ 6 ถนนบางขุนเทียน แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
  4. เมษายน

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 3 ที่เมกาบางนา โดยตั้งอยู่ที่ห้องเลขที่ 1520 ชั้น 1 เลขที่ 39 หมู่ 6 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,248 ตารางเมตร โดยเป็นสาขาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา เพื่อรองรับลูกค้าในบริเวณดังกล่าว และสร้างการรับรู้ของตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

    พฤษภาคม

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 4 ที่หัวหิน เพียวพลาซ่า โดยตั้งอยู่ที่อาคาร เพียวพลาซ่า ชั้น 2 เลขที่ 35/5 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77110 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,800 ตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าในบริเวณดังกล่าว และสร้างการรับรู้ของ ตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

    พฤศจิกายน

    • บริษัทฯ จดทะเบียนเพิ่มทุนจำนวน 110,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 200,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 11,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท เพื่อเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม สำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
  5. มกราคม

    • บริษัทฯ ได้ดำเนินการปิดสาขาที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ ย่านบางนา เนื่องจากมีการวางแผนเปิดร้านค้าแบบ Stand-alone ที่พื้นที่บริเวณบางนา ซึ่งมีพื้นที่ในการขายและสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีสาขาทั้งหมดจำนวน 3 สาขา

    ธันวาคม

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 4 ที่พัทยา โดยตั้งอยู่เลขที่ 244/31 หมู่ 11 ถนนสุขุมวิท ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,998 ตารางเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับลูกค้าในเมืองพัทยาและจังหวัดใกล้เคียง
  6. มีนาคม

    • บริษัทฯ จดทะเบียนเพิ่มทุนจำนวน 50,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 250,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท เพื่อเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม สำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

    ธันวาคม

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 5 ที่บางนา โดยตั้งอยู่เลขที่ 983 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 10,857 ตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าในบริเวณดังกล่าว และสร้างการรับรู้ของตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
  7. มีนาคม

    • บริษัทฯ ได้ดำเนินการปิดสาขาที่หัวหิน เนื่องจากพื้นที่การจำหน่ายสินค้ามีขนาดเล็กเกินไป จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน ทั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีสาขาทั้งหมดจำนวน 4 สาขา

    พฤษภาคม

    • บริษัทฯ ได้ดำเนินการปิดสาขาที่เมกาบางนา เนื่องจากบริษัทฯ ได้ดำเนินการเปิดสาขาแห่งใหม่ที่บางนา ซึ่งมีพื้นที่ในการขายและสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากกว่า และพิจารณาแล้วว่ากลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเดียวกัน ทั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีสาขาทั้งหมดจำนวน 3 สาขา

    ธันวาคม

    • บริษัทฯ จดทะเบียนเพิ่มทุนจำนวน 95,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 345,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 9,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท เพื่อเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม สำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
  8. เมษายน

    • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 1.88 บาทต่อหุ้น จำนวน 34,500,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 64,860,000 บาท พร้อมทั้งให้จัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 4,300,000 บาท

    พฤษภาคม

    • บริษัทฯ จดทะเบียนเพิ่มทุนจำนวน 155,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 500,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 15,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท โดยเรียกชำระค่าหุ้น หุ้นละ 2.50 บาท เพื่อเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมสำหรับนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
    • บริษัทฯ ได้ว่าจ้างบริษัท ดีเอชแอล ซัพพลายเชน (ประเทศไทย) จำกัด (“DHL”) ให้เป็นผู้บริหารคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าให้กับบริษัทฯ โดยคลังสินค้าตั้งอยู่ที่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

    มิถุนายน

    • บริษัทฯ ได้ดำเนินการปิดศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทฯ ที่บางขุนเทียน เนื่องจากบริษัทฯ ใช้บริการคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าของ DHL ที่บางพลีทดแทน

    ตุลาคม

    • บริษัทฯ จดทะเบียนเปลี่ยนที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ มาที่ เลขที่ 90 ซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 4 ที่ราชพฤกษ์ โดยตั้งอยู่เลขที่ 6/15 หมู่ 2 ตำบลอ้อมเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11130 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 14,159 ตารางเมตร พร้อมทั้งได้เปิดตัวตราสินค้าใหม่ภายใต้ชื่อ “Rina Hey” ซึ่งอยู่ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ โดยได้มีการแบ่งพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าในทุกสาขา โดยเริ่มจากสาขาราชพฤกษ์ สาขาประดิษฐ์-มนูธรรม สาขาบางนา และสาขาพัทยา ตามลำดับ
  9. เมษายน

    • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2560 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาทต่อหุ้น จำนวน 50,000,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 30,000,000 บาท พร้อมทั้งให้จัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 2,600,000 บาท

    กันยายน

    • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (ก่อนการแปรสภาพ) ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 มีมติสำคัญดังต่อไปนี้
      • อนุมัติการแปรสภาพบริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด จากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน)” และจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ จากหุ้นละ 10 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท

    ตุลาคม

    • บริษัทฯ จดทะเบียนแปรสภาพนิติบุคคลเป็นบริษัทมหาชนจำกัด

    พฤศจิกายน

    • ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (หลังการแปรสภาพ) ครั้งที่ 3/2560 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.023 บาท จำนวน 1,000,000,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 23,000,000 บาท พร้อมทั้งให้จัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 1,700,000 บาท
  10. กุมภาพันธ์

    • บริษัทฯ ดำเนินการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

    มีนาคม

    • บริษัทฯ จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชา ภายใต้ชื่อ Chic Republic Co., Ltd.

    กันยายน

    • ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.035 บาท จำนวน 1,000,000,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 35,000,000 บาท พร้อมทั้งให้จัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 1,300,000 บาท.

    ตุลาคม

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 5 ที่ประเทศกัมพูชา โดยตั้งอยู่ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า Aeon Mall 2 Sen Sok City กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,502.00 ตารางเมตร เนื่องจากบริษัทฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และโอกาสทางธุรกิจที่ บริษัทฯ จะสามารถขยายสาขา ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการขยายกิจการในประเทศกัมพูชาเป็นประเทศแรก

    พฤศจิกายน

    • บริษัทฯ เปิดตัวตราสินค้าใหม่ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “Ashley” โดยได้มีการแบ่งพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าในทุกสาขาในประเทศไทย

    ธันวาคม

    • บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001:2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของระบบบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System) ที่ระบุข้อกำหนดสำหรับระบบบริหารคุณภาพขององค์กร ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีของการดำเนินงานภายในองค์กร
  11. กันยายน

    • บริษัทฯ เปิดดำเนินการสาขาแห่งใหม่ สาขาที่ 6 ที่รามอินทรา โดยตั้งอยู่เลขที่ 739/1 ถนน รามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 7,800 ตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าในบริเวณดังกล่าว และสร้างการรับรู้ของตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

    ตุลาคม

    • บริษัทฯ ยื่นคำขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (“สคบ.”) เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผ่านเว็บไซต์ www.rinahey.com
  12. มีนาคม

    • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท จำนวน 1,000,000,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 15,000,000 บาท พร้อมทั้งให้จัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 3,000,000 บาท

    ตุลาคม

    • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 มีมติสำคัญดังต่อไปนี้
      • อนุมัติให้นำหุ้นสามัญของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และมีอนุมัติให้เข้าทำข้อตกลงการจดทะเบียนหลักทรัพย์กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
      • อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น (สามร้อยหกสิบล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (ห้าสิบสตางค์) เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (Initial Public Offering) รวมทั้ง ผู้มีอุปการคุณ และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ
      • อนุมัติการกำหนดหลักเกณฑ์และกำหนดสัดส่วนการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้
        1. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 54,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 15.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายในครั้งนี้ ให้แก่ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ
        2. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 36,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายในครั้งนี้ ให้แก่บุคคลที่มีความสัมพันธ์ และ/หรือ พนักงานของบริษัทฯ
        3. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 270,000,000 หุ้น และจำนวนหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายตามข้อที่ 1 และ 2 เพื่อเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายที่จะมีการแต่งตั้งในภายหลัง
      อย่างไรก็ตาม จำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่จัดสรรให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ และพนักงานของบริษัทฯ ตามข้อที่ 1 และ 2 รวมกัน จะต้องไม่เกินร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ทั้งหมด หรือไม่เกิน 90,000,000 หุ้น
  13. เมษายน

    • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2563 และการจ่ายเงินปันผล ดังนี้
      • อนุมัติการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายประจำปี 2563 เป็นจำนวนเงิน 1,850,000 บาท
      • อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท จำนวน 1,000,000,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 20,000,000 บาท ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2564
    • บริษัทฯ เปิดให้บริการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผ่าน E-Commerce website เต็มรูปแบบผ่านทาง www.chicrepublicthai.com

    ตุลาคม

    • บริษัทฯ เปิดให้บริการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์โดยผ่าน E-Commerce website เต็มรูปแบบผ่านทาง www.rinahey.com
  14. เมษายน

    • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2564 และการจ่ายเงินปันผล ดังนี้
      • อนุมัติการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายประจำปี 2564 เป็นจำนวนเงิน 1,750,000 บาท
      • อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2563 และ 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท จำนวน 1,000,000,000 หุ้น เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 20,000,000 บาท ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2565

    มิถุนายน

    • ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 80 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อปรากฏในทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 โดยแหล่งเงินทุนที่นำมาจ่ายเงินปันผลดังกล่าวประกอบด้วยเงินกู้ยืมจากธนาคารจำนวน 50 ล้านบาท และกระแสเงินสดภายในจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งเงินปันผลดังกล่าวจ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม 2565

    กรกฏาคม

    • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับหุ้นสามัญของบริษัทฯ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI และเริ่มซื้อขายในวันที่ 27 กรกฏาคม 2565 โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “CHIC”

โครงสร้างองค์กร

organization-chart
Top